บทที่ 2
วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
การศึกษาวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ผู้วิจัยข้อนำเสนอสาระในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้
1.กว่าจะมาเป็นe-Book
2.ความหมายของe-Book
3.โปรแกรมที่นิยมใช้สร้างe-Book
4.ความแตกต่างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book)
กับหนังสือทั่วไป
5.โครงสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book Construction)
6.สร้าง E- Book ด้วยโปรเเกรม FlipAlbum 6.0
Pro.
1.กว่าจะมาเป็นe-Book
หนังสือที่มีอยู่โดยทั่วไป จะมีลักษณะเป็นเอกสารที่จัดพิมพ์ด้วยกระดาษ
แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงของ
ยุคสมัย
และความเปลี่ยนแปลงด้านเล็กทรอนิกส์ ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีการคิดค้นวิธีการ ใหม่โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย จึงได้นำหนังสือดังกล่าวเหล่านั้นมาทำคัดลอก(scan)โดยที่หนังสือก็ยังคงสภาพเดิมแต่จะได้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นแฟ้มภาพขึ้นมาใหม่วิธีการต่อจากนั้นก็คือจะนำแฟ้ม ภาพตัวหนังสือมาผสานกระบวนการแปลงภาพเป็นตัวหนังสือ(text)ด้วยการทำOCR (Optical Character Recognition)
คือการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงภาพตัวหนังสือให้เป็นตัวหนังสือที่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้การถ่ายทอดข้อมูลในระยะต่อมา จะถ่ายทอดผ่านทางแป้นพิมพ์ และประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือและ ข้อความด้วยคอมพิวเตอร์ ดังนั้นหน้ากระดาษก็เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นแฟ้มข้อมูล(files) แทน ทั้งยังมีความสะดวกต่อการเผยแพร่และจัดพิมพ์เป็นเอกสาร (documents printing)
รูปแบบของหนังอิเล็กทรอนิกส์ยุคแรกๆ มีลักษณะเป็นเอกสารประเภท.doc, .txt, .rtf, และ.pdf
ไฟล์ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาภาษาHTML (Hypertext Markup Language) ข้อมูลต่างๆ ก็จะถูกออกแบบและตกแต่งในรูปของเว็บไซต์ โดยในแต่ละหน้าของเว็บไซต์เราเรียกว่า"web page"โดยสามารถ เปิดดูเอกสารเหล่านั้นได้ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ (web browser) ซึ่งเป็นโปรแกรมประยุกต์ที่สามารถแสดงผล ข้อความ ภาพ และการปฏิสัมพันธ์ผสานระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น บริษัทไมโครซอฟ (Microsoft)ได้ผลิตเอกสาร อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาเพื่อคอยแนะนำในรูปแบบHTML Help ขึ้นมา มีรูปแบบของไฟล์เป็น.CHM โดยมี ตัวอ่านคือMicrosoft Reader (.LIT)
หลังจากนั้นต่อมามีบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำนวนมาก ได้พัฒนาโปรแกรมจนกระทั้งสามารถ ผลิตเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ออกมาเป็นลักษณะเหมือนกับหนังสือทั่วไปได้ เช่น สามารถแทรกข้อความ แทรกภาพ จัดหน้าหนังสือได้ตามความต้องการของผู้ผลิต และที่พิเศษกว่านั้นคือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ สามารถสร้าง จัดเชื่อมโยงเอกสาร(Hypertext)ไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
ทั้งภายในและภายนอกได้ อีกทั้งยังสามารถ
แทรกเสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ลงไปในหนังสือได้ โดยคุณสมบัติเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ในหนังสือทั่วไป
2.ความหมายของe-Book
“อีบุ๊ค”(e-book, e-Book, eBook, EBook,)
เป็นคำภาษาต่างประเทศ ย่อมาจากคำว่าelectronic book หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารผสานทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์ คุณลักษณะของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถเชื่อมโยงจุดไปยังส่วนต่างๆ ของหนังสือ เว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนมีปฏิสัมพันธ์และโต้ตอบกับผู้เรียนได้นอกจากนั้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว แบบทดสอบ และสามารถสั่งพิมพ์เอกสารที่ต้องการออกทางเครื่องพิมพ์ได้ อีกประการหนึ่งที่ สำคัญก็คือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะไม่มีใน หนังสือธรรมดาทั่วไป
3.โปรแกรมที่นิยมใช้สร้างe-Book
โปรแกรมที่นิยมใช้สร้าง e-Book มีอยู่หลายโปรแกรม แต่ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันได้แก่
1. โปรแกรมชุด Flip Album
2. โปรแกรม DeskTop
Author
3.โปรแกรม Flash
AlbumDeluxe
ชุดโปรแกรมทั้ง 3
จะต้องติดตั้งโปรแกรมสำหรับอ่าน e-Book ด้วย มิฉะนั้นแล้วจะเปิดเอกสารไม่ได้ ประกอบด้วย
1.1โปรแกรมชุด Flip Album ตัวอ่านคือ FlipViewer
1.2โปรแกรมชุด DeskTop Author ตัวอ่านคือ DNL Reader
1.3โปรแกรมชุด Flash Album Deluxeตัวอ่านคือFlash Player
สำหรับบางท่านที่มีความชำนาญในการใช้โปรแกรม Flash Mx ก็สามารถสร้าง e-Book ได้เช่นกัน แต่ต้องมีความรู้ในเรื่องการเขียน Action Script และXML เพื่อสร้าง e-Book ให้แสดงผลตามที่ ต้องการได้
4.ความแตกต่างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) กับหนังสือทั่วไป
ความแตกต่างของหนังสือทั้งสองประเภทจะอยู่ที่รูปแบบของการสร้าง การผลิตและการใช้งาน เช่น
1. หนังสือทั่วไปใช้กระดาษ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่ใช้กระดาษ(อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้)
2.หนังสือทั่วไปมีข้อความและภาพประกอบธรรมดา
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างให้มีภาพเคลื่อนไหวได้
3.หนังสือทั่วไปไม่มีเสียงประกอบ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถใส่เสียงประกอบได้
4.หนังสือทั่วไปแก้ไขปรับปรุงได้ยาก หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแก้ไขและปรับปรุงข้อมูล(update)ได้ง่าย
5.หนังสือทั่วไปสมบูรณ์ในตัวเอง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถสร้างจัดเชื่อมโยง (links)ออกไปเชื่อมต่อกับ ข้อมูลภายนอกได้
6.หนังสือทั่วไปต้นทุนการผลิตส่ง หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนในการผลิตหนังสือต่ำ ประหยัด
7. หนังสือทั่วไปมีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไม่มีขีดจำกัดในการจัดพิมพ์
สามารถทำสำเนาได้ ง่ายไม่จำกัด
8.หนังสือทั่วไปเปิดอ่านจากเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ต้องอ่านด้วยโปรแกรม ผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
9.หนังสือทั่วไปอ่านได้อย่างเดียว หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นอกจากอ่านได้แล้วยังสามารถสั่งพิมพ์(print)ได้
10.หนังสือทั่วไปอานได้1 คนต่อหนึ่งเล่ม หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 1 เล่ม สามารถอ่านพร้อมกันได้จำนวนมาก(ออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต)
11. หนังสือทั่วไปพกพาลำบาก (ต้องใช้พื้นที่) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พกพาสะดวกได้ครั้งละจำนวนมากในรูปแบบ ของไฟล์คอมพิวเตอร์ ใน handy drive หรือ CD
5.โครงสร้างหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book
Construction)
ลักษณะโครงสร้างของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์จะมีความคล้ายคลึงกับหนังสือทั่วไปที่พิมพ์ด้วยกระดาษ
หากจะมี ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือกระบวนการผลิต
รูปแบบ และวิธีการอ่านหนังสือ สรุปโครงสร้างทั่วไปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย
• หน้าปก(Front Cover)
• คำนำ (Introduction)
• สารบัญ(Contents)
• สาระของหนังสือแต่ละหน้า(Pages Contents)
• อ้างอิง(Reference)
• ดัชนี(Index)
• ปกหลัง(Back Cover)
หน้าปก หมายถึง ปกด้านหน้าของหนังสือซึ่งจะอยู่ส่วนแรก เป็นตัวบ่งบอกว่าหนังสือเล่มนี้ชื่ออะไร ใครเป็นผู้แต่ง
คำนำ หมายถึง คำบอกกล่าวของผู้เขียนเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูล และเรื่องราวต่างๆ ของหนังสือ เล่มนั้น
สารบัญ หมายถึง ตัวบ่งบอกหัวเรื่องสำคัญที่อยู่ภายในเล่มว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง อยู่ที่หน้าใดของหนังสือ สามารถเชื่อมโยงไปสู่หน้าต่างๆ ภายในเล่มได้
สาระของหนังสือแต่ละหน้าหมายถึง ส่วนประกอบสำคัญในแต่ละหน้า ที่ปรากฏภายในเล่ม ประกอบด้วย
• หน้าหนังสือ(Page Number)
• ข้อความ(Texts)
• ภาพประกอบ (Graphics)
.jpg, .gif, .bmp, .png, .tiff
• เสียง(Sounds) .mp3, .wav, .midi
• ภาพเคลื่อนไหว(Video Clips, flash) .mpeg, .wav, .avi
• จัดเชื่อมโยง (Links)
อ้างอิง หมายถึง แหล่งข้อมูลที่ใช้นำมาอ้างอิง อาจเป็นเอกสาร ตำรา หรือ เว็บไซต์ก็ได้
ดัชนี หมายถึง การระบุคำสำคัญหรือคำหลักต่างๆ ที่อยู่ภายในเล่ม
โดยเรียงลำดับตัวอักษรให้สะดวกต่อการค้นหา พร้อมระบุเลขหน้าและจัดเชื่อมโยง
ปกหลัง หมายถึง ปกด้านหลังของหนังสือซึ่งจะอยู่ส่วนท้ายเล่ม
6.สร้าง E- Book ด้วยโปรเเกรม FlipAlbum
6.0 Pro.
สื่อนำเสนอในปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบใหม่ความโด่ดเด่น น่าสนใจด้วยเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (Multimedia) การนำเสนอข้อความหรือเนิ้อหาปริมาณมากๆ ในลักษณะของสิ่งพิมพ์หรือ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากสิ่งพิมพ์หรือหนังสือที่เป็นไฟล์เนื้อหาเพียงอย่างเดียว
ต้องดูด้วยเทคนิคการเลื่อนจอภาพ
ไปเป็นเทคนิคการนำเสนอที่มีลักษณะการเปิดหน้าหนังสอแบบเสมือน เนื้อหาที่นำเสนอเป็นได้ทั้งข้อความ ภาพนิ่ง
ภาพเคลื่อนไหว วิดีทัศน์
และเสียง อันเป็นการใช้ความสามารถของเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาผสมผสานกบ
e-Book ได้อย่างลงตัว
เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมสูงอย่างมากในปัจจุบันภายใตชื่อเรียกว่า Multimedia
e-Book
การพัฒนา Multimedia
e-Book มีซอฟต์แวร์ช่วยหลายตัว
โดยซอฟต์แวร์ที่โดดเด่นตัวหนึ่งคือ FlipAlbum ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนามาเป็น
FlipAlbum 6.0
โดยความสามารถของโปรแกรมที่ทำให้การนำเสนอสื่อออกมาในรูปแบบ 3D
Page-Flipping interface และมีชื่อเรียกเฉพาะว่า FlipBook ผลงานที่ได้นี้สามารถนำเสนอได้ทั้งแบบ Offline ด้วยความสามารถ
AutoRun อัตโนมัติ และ Online ผ่านโปรแกรมแสดงผลเฉพาะ
FlipViewer
คุณสมบัติขั้นต่ำของคอมพิวเตอร์
• ระบบปฏิบัติการ Windows® 98/2000/ME/XP
• คอมพิวเตอร์ IBM® PC compatible หนวยประมวลผล Pentium®
II 300 MHz
- หน่วยความจำแรมอย่างต่ำ 128 MB
- พื้นที่ว่างของฮาร์ดดิสก์อย่างต่ำ 100 MB
- การ์ดแสดงผล 16-bit
- จอภาพที่มีความละเอียดไม่น้อยกว่า 800 × 600 pixels
เตรียมความพร้อมก่อนสร้าง E-Book
ข้อมูลที่สามารถใส่ลงในโปรเเกรม Flip album ได้นั้นมีรูปเเบบที่หลากหลายทั้งข้อความ, ภาพนิ่ง,
ภาพเคลื่อนไหว, ไฟล์วิดิโอเเละไฟล์เสียง ดังนั้นควรจัดเตรียมข้อมูล
ตกเเต่งรูปภาพเเละอื่นๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเเละจัดเก็บรวมกันไว้ใน Folder
ที่กำหนดขึ้นเช่น C:\my
pic เป็นต้น ทั้งนี้ไฟล์ที่สามารถใช้ได้ ได้เเก่ (GIF, JPG,
PNG, BMP, WMF, ICO, PCX, TIF, PCD, PSD); OEB Package Format (OPF); Sound Files
(MID, WAV, MP3); Video Files (AVI, MPG)
การสร้างเอกสาร E – Book
เปิดโปรแกรม FlipAlbum จากเมนูคำสั่ง Start,
Program, E-Book Systems, flipAlbum 6 Pro, FlipAlbum Pro จะปรากฏจอภาพทางาน โดยส่วนสำคัญของการสร้าง e-Book อย่างง่ายและเร็วนี้คือจอภาพ QuickStart (ถ้าไม่ปรากฏให้เลือกคำสั่ง
File, Start Wizard)
1. คลิกรายการ Open
Folder แล้วเลือกโฟลเดอรที่เตรียมภาพไว้ก่อนหน้านี้
(ตัวอย่างคือโฟลเดอร์ Graffiti)
2. จากนั้นคลิกรายการ Page
Layout เพื่อเลือกรูปแบบของสื่อ
ทั้งนี้รูปแบบ Single image per page
เป็นลักษณะการนำเสนอภาพแยกเป็น 2 หน้ากระดาษ และรูปแบบ Centerfold page เป็นลักษณะการนำเสนอภาพบนกระดาษแผ่นใหญ่แผ่นเดียว
ทั้งนี้เมื่อคลิกเลือกจะปรากฏ Effect สีขาวฟุ้งๆ
รอบรูปแบบที่เลือก
3. จากนั้นคลิกเลือก Themes เพื่อเลือกลักษณะปก
และพื้นหนังสือ
4. เมื่อครบทั้ง 3 ขั้นตอนก็คลิกปุ่ม Finish โปรแกรมจะนำภาพทุกภาพในโฟลเดอร์ที่ระบุมาสร้างเป็น e-Book ให้อัตโนมัติ
การเลื่อนหน้ากระดาษ
· คลิกบนหน้ากระดาษด้านขวา
เพื่อดูหน้าถัดไป
· คลิกบนหน้ากระดาษด้านซ้าย
เพื่อย้อนกลับ
· เลื่อนเมาส์ไปชี้ที่ขอบหนังสือด้านซ้ายหรือขวามือเพื่อเลือกหน้าที่จะเปิด
· คลิกปุ่มขวาของเมาส์บนหน้ากระดาษ
เเล้วคลิกคำสั่ง Flip To
o Front Cover คือปกหน้า
o Back Cover คือปกหลัง
o Overview คือหน้าสรุปรวมเนื้อหา
ซึ่งมีลักษณะเป็นภาพขนาดเล็ก (Thumbnails)
การทำงานของหน้านี้ แบ่งเป็น
>>
การคลิกที่รูปภาพเล็ก เพื่อแสดงภาพแบบเต็มจอ กดปุ่ม Esc เพื่อกลับสู่สภาวะปกติ
>>
การคลิกที่ชื่อภาพ เพื่อเปิดไปยังหน้านั้นๆ
>>
ใช้เทคนค Drag & Drop ชื่อไฟล์ภาพ เพื่อสลับตำแหน่ง
>>
คลิกปุ่มขวาของเมาส์ที่รูปเพื่อเปิดเมนูลัดในการทำงาน
o Contents
คือหน้าสารบัญ
โปรแกรมจะนำชื่อไฟล์ภาพหรือสื่อมาเป็นรายการสารบัญ
ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตามต้องการ แต่ห้ามใช้สัญลักษณ์พิเศษใดๆ เช่น % ^
/
FlipAlbum จะกำหนดลักษณะของหน้าปก,
หน้าเอกสารด้วยภาพที่มีสีสันตาม Themes ที่เลือกเเต่ก็สามารถปรับเเต่งได้เอง
โดย
1. เลือกหน้าเอกสารที่ต้องการปรับเเก้ไข
2. คลิกขวาพื้นที่หน้านั้น เเล้วเลือกคำสั่ง Page
Properties
3. เลือกลักษณะของพื้นเอกสาร
• Default ตามค่าเริ่มต้นของระบบ
• Color ระบุสีเพื่อเเสดงผลเป็นสีของพื้นเอกสาร
•
Texture ระบุไฟล์กราฟิกอื่นๆ
ที่จะนำมาใช้เป็นพื้นเอกสาร
4. คลิกปุ่ม OK
เพื่อยืนยันการปรับเเต่งหน้าเอกสาร
ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนหน้าเอกสาร
E-book :
Graffiti
การเลือกสันปกเเบบต่างๆ
เป็นการเลือกรูปเเบบของสันปกอัลบั้มว่าจะใส่ห่วงสันปกหรือไม่
ซึ่งมีหลายเเบบให้เลือก ทำได้โดยคลิกที่คำสั่ง Options >> Book Binder เเละเลือกรูปเเบบที่ต้องการดังรูป
การปรับแต่ง / เพิ่มเติมข้อความ
การปรับแต่งแก้ไขข้อความใน e-Book ทำได้โดยการดับเบิ้ลคลืกที่ข้อความเดิม ซึ่งจะปรากฏเป็นกรอบข้อความ
และแถบเครื่องมือการปรับแต่งข้อความ
การเพิ่มข้อความ
การเพิ่มข้อความ
จะต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อความนั้นจะเพิ่มในหน้าซ้าย หรือหน้าขวาได้หรือไม่
โดยสังเกตจากปุ่มเครื่องมือ Insert Annotation ซึ่งจะถูกแบ่งครึ่ง
ครึ่งซ้ายคือการเพิ่มข้อความในกระดาษหน้าซ้าย และคึ่รงขวาคือการเพิ่มข้อความในกระดาษหน้าขวา
หากปุ่มเครื่องมือ Insert Annotation
ไม่สามารถคลิกได้
แสดงว่าหน้ากระดาษที่ปรากฏไม่สามารถป้อนข้อความได้ จะต้องเพิ่มหน้ากระดาษที่สามารถป้อนข้อความได้ด้วยคำสั่ง
Edit, Insert Page, Left Page หรอ Right Page ก่อน
การปรับแต่งรูปภาพ
· การย่อ/ขยายรูปภาพ
สามารถทำได้หลากหลายวิธี ได้แก่
- การย่อ/ขยายด้วย Handle
- การย่อ/ขยายด้วยเมนูคำสั่งทีละภาพ
- การย่อ/ขยายแบบ Batch ซึ่งให้ผลพร้อมกันหลายๆ ภาพ
· การหมุนภาพ
ภาพที่นำเข้ามาบางภาพอาจจะมีแนวการแสดงผลไม่เหมาะสม
ซึ่ง
สามารถหมุนภาพให้เหมาะสมได้โดยคลิกขวาที่ภาพ แล้วเลือกคำสั่ง Rotate จะปรากฏคำสั่งย่อย ดังนี้
- Left
by 90 หมุนไปทางซ้าย 90 องศา
- Right by 90 หมุนไปทางขวา 90 องศา
- By 180 หมุน 180 องศา
- By
Other Angles หมุนโดยกำหนดมุมอิสระ
· การแสดงภาพด้วย
Effect พิเศษ
ทำได้โดยการคลิกขวาที่ภาพ แล้วเลือกคำสั่ง Effects จะปรากฏ คำสั่งย่อย ดังนี้
- Transparent ทำให้พื้นของภาพมีลักษณะโปร่งใส
โดยโปรแกรมจะแสดงหลอดดูดสี (Eye Dropper) ให้คลิก
ในตำแหน่งสีที่ต้องการทำให้ เป็นสีโปร่งใส
- 3D ทำให้ภาพมีลักษณะนูนแบบ 3 มิติ
- Shadow
ทำให้ภาพมีเงา
- Select Crop Shape เลือกรุปทรงพิเศษ ซึ่งมีตัวเลือก
การเพิ่มรูปภาพ
การเพิ่มรูปภาพใน e-Book ทำได้โดยคลิกปุ่มเครื่องมือ Insert Multi-media Objects หรือ คลิกขวาที่หน้าเอกสารที่ต้องการเพิ่มรูปภาพเลือก Multi-media
Objects
จากนั้นเลือกไดร์ฟ และโฟลเดอร์ที่ต้องการเลือกรูปภาพ กรณีที่ไม่ปรากฏภาพตัวอย่างให้คลิกที่ปุ่ม จากนั้นเลือกภาพที่ต้องการแล้วลากมาวางในหน้ากระดาษ
การใส่ไฟล์วิดีโอ และไฟล์เสียงลงในอัลบั้ม
นอกจากข้อความและภาพนิ่ง
โปรแกรมยังสนับสนุนการนำเสนอสื่อมัลติมีเดียรูปแบบต่างๆ เช่น
เสียง วีดิทัศน์ และภาพเคลื่อนไหว เช่น Gif Animation
โดยใช้เทคนิคการนำเข้า เช่นเดียวกับรูปภาพ คือใช้ปุ่มเครื่องมือ
Insert Multi-media Objects แล้วลากไฟล์สื่อที่ต้องการมาวางบนหน้ากระดาษ
การทำจุดเชื่อมโยง (Link)
การทำจุดเชื่อมหรือลิงก์ (Link) ด้วยข้อความหรือวัตถุต่างๆ
ไปยังตำแหน่งต่างๆ หรือเรียกว่าเว็บไซต์
ก็เป็นฟังก์ชั่นหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของ e-Book ดังนั้น FlipAlbum จงเตรียมคำสั่งเพื่อให้สามารถทำงานได้สะดวก โดยเลือกกรอบข้อความ รูปภาพแล้วคลิกขวา จากนั้นเลือกคำสั่ง Set
Link..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น